
วัยรุ่นปาหินกระจกหน้ารถ หนูน้อย 11ขวบสาหัส
แก๊ง ปาหินอาละวาด ขว้างรถนักท่องเที่ยวที่กลับจากงาน 100 ปีพระราชวังสนามจันทร์ เมืองนครปฐม ถูกหน้าเด็กชาย 11 ขวบที่หลับอยู่หลังรถอาการสาหัส ขี่ จยย.ปาดหน้า แต่โชเฟอร์เร่งเครื่องหนีรอดหวุดหวิด พยานยันมีวัยรุ่นมาถามหาคนเจ็บจากเหตุปาหินที่โรงพยาบาล คาดมาเช็กอาการ ตร.ภาค 7-ภูธรจังหวัดเต้น สั่งระดมกำลังไล่ล่า ตั้ง 2 ข้อหาหนัก ลักทรัพย์และพยายามฆ่า อีกรายพี่สาวร้องสื่อ น้องชายถูกปาหินเสียชีวิต เกือบเดือนคดีไม่คืบ
แก๊งปาหินยังสร้าง ความเดือดร้อนให้ไม่หยุดหย่อน โดยรายล่าสุด เด็กชายวัย 11 ขวบ ต้องมารับเคราะห์ได้รับบาดเจ็บสาหัส เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.45 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน พ.ต.ท.ไพบูลย์ แพรสีนวล พนักงานสอบสวน สภ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ได้รับแจ้งมีคนถูกปาก้อนหินใส่รถและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4คน ไปรับการรักษาที่ รพ.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
เหตุเกิดบริเวณถนน บรมราชชนนี หมู่ 1 ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบที่ รพ.ศาลายา พร้อมด้วย พล.ต.ต.ยงยุทธ เดียวตระกูล รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.สมบัติ ระวังสำโรง รอง ผบช.ภ. 7 พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม ผบก.ภ.จว.นครปฐม และ พ.ต.อ.อนุรักษ์ นาคพนม ผกก.
จากการตรวจสอบพบรถ ยนต์มิตซูบิชิ แลนเซอร์ สีบรอนซ์-เงิน ทะเบียน ฐธ 5421 กรุงเทพมหานคร ถูกปาก้อนหินกระจกแตกร้าวทั้งบาน โดยมีนายหน่อย พรหมชนะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 14 ต.รางหวาย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี เป็นคนขับ ส่วนผู้บาดเจ็บคือ ด.ญ.เปรมมิกา พรหมชนะ อายุ 2 ขวบ บุตรสาวนายหน่อย ถูกสะเก็ดหินและสะเก็ดกระจกเข้าที่ศีรษะ บาดเจ็บเล็กน้อย
นางวันวิ สา วรรณนุรักษ์ อายุ 28 ปี ภรรยานายหน่อย นายพีรพล ทองรี อายุ 15 ปี นายภานุพงษ์ วิเคราะห์เหตุ อายุ 27 ปี บาดเจ็บเล็กน้อย และ ด.ช.วีระยุทธ ไหลอุดมศิลป์ อายุ 11 ขวบ หลานชาย นักเรียนชั้น ป.5 ร.ร.ปากน้ำวิทยาคม แขวงบางเสาธง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ บาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลที่ใบหน้า แพทย์ต้องนำเข้าห้องไอซียู เนื่องจากเสียเลือดมาก
นายหน่อย ให้การว่า ก่อน เกิดเหตุครอบครัวและญาติรวม 6 คน เดินทางจาก กทม.มาเที่ยวงาน 100 ปี พระราชวังสนามจันทร์ กระทั่งเวลา 23.40 น. ก็เดินทางกลับ โดยใช้เส้นทางถนนบรมราชชนนี-ปิ่นเกล้า เมื่อขับรถมาถึงบริเวณพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย ขณะนั้นทุกคนในรถหลับกันหมด โดยนางวันวิสา ภรรยานั่งเบาะด้านหน้า ด.ญ.เปรมมิกานอนหลับอยู่บนตัก ส่วนเบาะหลังมีนายพีรพล ด.ช.วีระยุทธ และนายภานุพงษ์นั่งอยู่ ขณะขับรถด้วยความเร็วประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ก็ต้องตกใจสุด ขีด เมื่อได้ยินเสียงปัง จากนั้นกระจกด้านหน้าเป็นรูแตกร้าวทั้งบาน จึงขับรถยนต์ชิดเลนซ้ายเพื่อจอดดู แต่เมื่อหันกลับไปมองด้านหลัง ก็พบว่ามีวัยรุ่น 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันตามกันมา คิดว่าน่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น จึงเร่งเครื่องขับไปโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว และให้ภรรยาโทรศัพท์แจ้ง 191
ต่อมาเวลา 10.00 น. วันเดียวกัน พล.ต.ต.ยงยุทธ และ พล.ต.ต.สมบัติ รอง ผบช.ภ. 7 ได้เรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนและฝ่ายป้องกันและปราบปราม สภ.นครชัยศรี สภ.พุทธมณฑล สภ.สามพราน สภ.โพธิ์แก้ว พร้อมตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนครปฐม และตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 7 โดยมี พ.ต.อ.วิเชียร ตันติวิริยะ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.อนุรักษ์ นาคพนม ผกก.สภ.นครชัยศรี เข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุม สภ.นครชัยศรี เพื่อเร่งรัดติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายต้องการจี้ชิงทรัพย์
พล.ต.ต.ยงยุทธ กล่าวว่า จากรายงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน พบว่าใกล้จุดที่เกิดเหตุมีร้านส้มโอร้านหนึ่งที่น่าสงสัย เพราะขณะเกิดเหตุมีวัยรุ่นนั่งเฝ้าร้านอยู่คนหนึ่ง สอบสวนในเบื้องต้นพบหลักฐานหลายอย่าง ซึ่งจากการเข้าตรวจค้นพบขวดเบียร์และก้อนหินลักษณะคล้ายก้อนหินที่คนร้ายใช้ ก่อเหตุ จึงสั่งการให้ชุดสืบสวนไปตามตัวมาสอบปากคำ พร้อมกับเก็บก้อนหินที่ใช้ก่อเหตุ และขวดเบียร์ที่พบบริเวณร้านส้มโอ ส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสถานที่เกิดเหตุ วิทยาการเขต 15 นครปฐม ตรวจสอบหาร่องรอยนิ้วมือต่อไป
พล.ต.ต.สมบัติ กล่าวว่า มีพยานระบุว่าหลังจากเกิดเหตุประมาณ 03.00 น. ของวันเดียวกัน มีชายวัยรุ่น 2 คน หนึ่งในนั้นมีรูปร่างท้วม ผมหยิก ซึ่งตรงกับลักษณะคนร้ายที่ก่อเหตุ เดินทางไปที่ รพ.ศาลายาเพื่อไปสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าคนเจ็บที่ถูกหินปาใส่รถอาการเป็นอย่าง ไร ซึ่งมีพลเมืองดีจำได้ว่าชายวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน อักษรหน้าคือ พ และตัวอักษรท้ายสุดคือ ษ ส่วนอักษรกลางจำไม่ได้ แต่เลขทะเบียนคือ 142 ไม่ทราบจังหวัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตรวจสอบต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.อนุรักษ์ ผกก.สภ.นครชัยศรี กล่าวว่า เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในละแวก อ.นครชัยศรี หรือ อ.สามพราน ซึ่งสั่งให้ชุดสืบสวนตรวจสอบประวัติวัยรุ่นที่เคยก่อเหตุชิงทรัพย์และมี พฤติกรรมลักษณะนี้เมื่อหลายปีก่อน เบื้องต้นตั้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์และพยายามฆ่า
อีกราย เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน น.ส.เกณิกา อ่อนศิริ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 115/19 หมู่ 1 ต.ทุ่งกระพังโหม อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เข้าร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว นสพ."คม ชัด ลึก" ว่า นายภาคิน อ่อนศิริ อายุ 23 ปี น้องชาย ถูกกลุ่มวัยรุ่นปาก้อนหินใส่ศีรษะขณะกลับจากการเล่นดนตรีที่ผับคลับเฮ้าส์ หมู่ 10 ถ.วงศ์สวรรค์ ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 3 พศจิกายน ที่ผ่านมา และจนถึงขณะนี้คดียังไม่มีความคืบหน้า
น.ส.เกณิกา เล่าว่า น้องชายเล่นดนตรีอยู่ที่ จ.ชลบุรี วันเกิดเหตุไปทดสอบวงที่ร้านอาหารคลับเฮ้าส์ จ.นครสวรรค์ หลังจากเล่นดนตรีเสร็จ น้องชายและเพื่อนอีก 5 คนนั่งรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีดำเดินทางกลับกรุงเทพฯ ขณะถอยรถเกิดทับขวดแก้วจนแตกกระจายเสียงดังมาก กลุ่มของน้องชายลงมาดูว่ายางแตกหรือไม่ จังหวะนั้นมีพนักงานเสิร์ฟเดินมาบอกว่า เศษขวดกระเด็นถูกวัยรุ่นที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไป ทำให้กลุ่มวัยรุ่นไม่พอใจอย่างมาก
"หลังจากน้องชายเงย หน้ามา ก็ถูกกลุ่มวัยรุ่นขี่รถมอเตอร์ไซค์เข้ามาปาก้อนหินขนาดใหญ่ถูกหัวอย่างจังจน ล้มลง หลังเกิดเหตุเพื่อนๆ และพนักงานร้านขับรถตามจับแต่ไม่ทัน หัวหน้าวงเห็นหน้าคนร้ายและพอจำหน้าได้จึงไปแจ้งตำรวจและรีบพาน้องชายส่งโรง พยาบาล คิดว่าน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกเศษขวดแก้วกระเด็นใส่ กลับมาแก้แค้น หลังจากไปรักษาที่โรงพยาบาลพบว่ากะโหลกแตก สมองส่วนหน้าไม่ตอบสนอง และเสียชีวิตในที่สุด หลังจากนั้นตำรวจได้ออกหมายจับ แต่ยังไม่ได้ตัวคนร้าย" น.ส.เกณิกา กล่าว
พ.ต.อ.ประนอม มั่นเมือง ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ กล่าวว่า คดีนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนจากภาพสเกตช์ โดยออกหมายจับไปแล้ว ส่วนสาเหตุคาดว่าเป็นฝีมือกลุ่มวัยรุ่นที่ถูกเศษแก้วกระเด็นใส่ เกิดความแค้นเพราะคิดว่ากลุ่มผู้ตายปาขวดใส่ จึงกลับมาขว้างหินใส่ ส่วนคนร้ายที่ติดตามยากเพราะทางร้านไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ตำรวจจะเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว" พ.ต.อ.ประนอม กล่าว
http://webboard.mthai.com/52/2007-11-27/357716.html